เมื่อเอาเมล็ดข้าวไปเพาะให้งอก โดยแช่น้ำนาน ประมาณ ๑-๒ ชั่วโมง แล้วเอาเมล็ดขึ้นมาเก็บไว้ในจานแก้ว ที่มีความชื้นสูง ซึ่งวางไว้ในห้อง ที่มีอุณหภูมิ ประมาณ ๒๕ องศาเซลเซียส เมล็ดจะงอกให้เห็น ภายใน ๔๘ ชั่วโมง โดยมีปุยสีขาวเกิดขึ้น ที่ปลายด้านหนึ่งของเมล็ดข้าว ซึ่งเป็นปลายด้านที่ติดกับก้านดอก ส่วนที่งอกนั้น คือ คัพภะ (embryo) ต่อไปจะมีราก และยอดโผล่ตามออกมา เมื่อเอาเมล็ดที่งอกเหล่านี้ไป ปลูกในดินที่เปียก ส่วนที่เป็นรากจะเจริญเติบโตลึกลง ไปในดิน ส่วนที่เป็นยอดจะสูงขึ้นเหนือผิวดิน แล้วเปลี่ยนเป็นใบ ต้นข้าวเล็กๆ นี้เรียกว่า ต้นกล้า หลังจากต้นกล้ามีอายุประมาณ ๔๐ วัน จะมีหน่อใหม่เกิดขึ้น โดยเจริญเติบโตออกมาจากตา ซึ่งอยู่ที่โคนต้น ต้นกล้า แต่ละต้นสามารถแตกกอได้หน่อใหม่ประมาณ ๕-๑๕ หน่อ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ข้าว ระยะปลูก และความอุดมสมบูรณ์ของดิน แต่ละหน่อให้รวงข้าวหนึ่งรวง แต่ละรวงจะมีเมล็ดประมาณ ๑๐๐-๑๕๐ เมล็ด ปกติต้นข้าวที่โตเต็มที่แล้ว จะมีความสูงจากพื้นดินถึงปลายรวงที่สูงที่สุด ประมาณ ๑๐๐-๒๐๐ เซนติเมตร ซึ่งแตกต่างไปตามชนิดของพันธุ์ข้าว ตลอดถึงความอุดมสมบูรณ์ของดินด้วย พันธุ์ข้าวบางพันธุ์มีต้นสูง บางพันธุ์มีต้นเตี้ย ภายในต้นข้าวมีลักษณะเป็นโพรง และแบ่งออกเป็นปล้องๆ ฉะนั้นข้าวต้นสูงจึงล้มง่ายกว่าข้าวต้นเตี้ย